แม้ว่าใบปัดน้ำฝนเป็นส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ ที่ขาดไม่ได้เมื่อเดินทางในช่วงวันฝนตก
เจ้าของรถบางคนได้ใช้ใบปัดน้ำฝนเป็นเวลานาน แต่เนื่องจากใบปัดน้ำฝนไม่สามารถปัดน้ำฝนออกได้อย่างถูกต้อง จึงต้องเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเป็นประจำ
แล้วคุณควรจะเลือกอย่างไรใบปัดน้ำฝนคุณภาพสูง?
ปัจจัยสำคัญประการแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกที่ปัดน้ำฝนคือประเภทของตัวเชื่อมต่อที่ปัดน้ำฝนในรถของคุณ
คุณจะต้องซื้อใบปัดน้ำฝนรถยนต์ที่ตรงกับขั้วต่อหรือคุณจะไม่สามารถติดตั้งได้ อีกวิธีหนึ่งคือคุณสามารถเปลี่ยนขั้วต่อด้วยใบปัดน้ำฝนอเนกประสงค์
ใบปัดน้ำฝนในท้องตลาดมีอยู่ 2 ประเภท:ที่ปัดน้ำฝนโลหะและใบปัดน้ำฝนแบบไม่มีกรอบ.
ใบปัดน้ำฝนแบบโลหะมีการใช้งานและรองรับหลายจุด แรงบางครั้งไม่สม่ำเสมอ และรอยขีดข่วนไม่สะอาด
เพราะที่ปัดน้ำฝนไม่มีกรอบครับ แผ่นยางยึดติดกับรถทั้งแผ่นครับกระจกหน้ารถกระจายแรงกดไปยังใบปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ปัดได้สะอาดหมดจด ให้ทัศนวิสัยที่ดีขึ้น และปกป้องความปลอดภัยของผู้ขับขี่
เป็นผลให้ใบปัดน้ำฝนแบบอ่อนเป็นทางเลือกที่ดีในสถานการณ์ส่วนใหญ่
นอกจากนี้ เจ้าของรถจะต้องตรวจสอบประสิทธิภาพของวัสดุต่างๆ ในการเลือกที่ปัดน้ำฝน
1.ความยืดหยุ่นของยาง
หน้าที่ของที่ปัดน้ำฝนคือการสร้าง "ชั้นฟิล์มน้ำ" บางๆ บนกระจกเพื่อหลีกเลี่ยงการสะท้อนและการหักเหของแสง นอกจากนี้ยังช่วยขูดน้ำออกจากกระจกอีกด้วย
ดังนั้นในการเลือกใบปัดน้ำฝน ยางควรมีความยืดหยุ่นและชื้นเพียงพอที่จะทำให้ใบปัดน้ำฝนอยู่ใกล้กับกระจก ช่วยให้คุณปัดน้ำฝนได้อย่างสะอาดหมดจดในขณะที่ยังคงมองเห็นได้ชัดเจน
2.ไม่มีริ้วรอย
ใบปัดน้ำฝนคุณภาพต่ำบางชนิดไม่สามารถปัดน้ำฝนทั้งหมดออกจากกระจกรถได้ทันเวลา ส่งผลให้เกิด "ขน" หลังจากการปัด
ดังนั้นในการเลือกใบปัดน้ำฝน ควรเลือกแบบที่ปัดน้ำฝนไม่มีรอยคราบ เพราะสามารถปัดน้ำฝนได้ทันทีโดยไม่ทิ้งคราบน้ำไว้ ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน
3.ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
ในวันที่ฝนตก ใบปัดน้ำฝนอาจสั่น ซึ่งไม่เพียงแต่บดบังทัศนวิสัยบางส่วนเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถปัดน้ำฝนได้อย่างเพียงพออีกด้วย
ดังนั้น ในการเลือกใบปัดน้ำฝน ควรเลือกใบปัดน้ำฝนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการสั่นสะเทือนที่ดีกว่า และพอดีกับกระจกหน้ารถมากที่สุด เพื่อให้แรงที่กระทำต่อใบปัดน้ำฝนมีความสม่ำเสมอโดยทั่วไป
ก่อนซื้อที่ปัดน้ำฝนควรคำนึงถึงข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้น
เวลาโพสต์ : 14 ก.ค. 2566