บางครั้งที่ปัดน้ำฝนฝั่งคนขับจะมีตัวอักษร “D” เล็กๆ อยู่บนใบปัดน้ำฝน ในขณะที่ฝั่งผู้โดยสารจะมีตัวอักษร “P” เล็กๆ กำกับไว้ บางคนเลือกใช้ตัวอักษร โดยฝั่งคนขับจะมีตัวอักษร “A” และฝั่งผู้โดยสารจะมีตัวอักษร “B”
ใบปัดน้ำฝนมีหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณที่มองเห็นได้บนกระจกหน้ารถ โดยปัดไปมาเพื่อปัดน้ำฝน หิมะ น้ำแข็ง สิ่งสกปรก และเศษขยะอื่นๆ ออกไป จุดประสงค์หลักของใบปัดน้ำฝนคือเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นถนนและการจราจรโดยรอบได้มากที่สุด
การมองเห็นที่ชัดเจนทำได้โดยการวางแกนหมุนใบปัดน้ำฝนให้ห่างกัน เมื่อคุณมองกระจกหน้ารถ แกนหมุนใบปัดน้ำฝนจะไม่อยู่ตรงกลางกระจก แต่ทั้งสองแกนจะตั้งไว้ทางซ้าย โดยที่ใบปัดน้ำฝนฝั่งผู้โดยสารจะอยู่ใกล้กับกึ่งกลางของกระจกหน้ารถ เมื่อใบปัดน้ำฝนทำงาน ใบปัดจะปัดขึ้น จากนั้นจะหยุดและเลื่อนกลับเมื่อใบปัดมาถึงตำแหน่งที่สูงกว่าแนวตั้งเล็กน้อย ใบปัดน้ำฝนฝั่งคนขับจะยาวพอที่จะไม่สัมผัสกับขอบกระจกหน้ารถด้านบนหรือขอบกระจก ใบปัดน้ำฝนฝั่งผู้โดยสารจะเข้าใกล้กระจกหน้ารถฝั่งผู้โดยสารให้มากที่สุดเพื่อให้ปัดได้พื้นที่มากที่สุด
เพื่อให้มีพื้นที่ว่างมากที่สุด ใบปัดน้ำฝนจึงมักมีขนาดแตกต่างกัน 2 ขนาด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งแกนหมุนของใบปัดน้ำฝน ในบางรุ่น ใบปัดน้ำฝนด้านคนขับจะมีขนาดยาวกว่า ส่วนใบปัดน้ำฝนด้านผู้โดยสารจะมีขนาดสั้นกว่า และในบางรุ่น ใบปัดน้ำฝนจะกลับด้าน
หากคุณเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนรถยนต์ ควรใช้ขนาดเดียวกับที่ผู้ผลิตรถยนต์ระบุไว้ เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ดีที่สุด
หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับใบปัดน้ำฝน เรายินดีที่จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ก็ตาม
เวลาโพสต์ : 31 ส.ค. 2565