คุณมักจะพบว่าใบปัดน้ำฝนบนรถเสียหายโดยไม่รู้ตัวเมื่อจำเป็นต้องใช้ใบปัดน้ำฝนแล้วเริ่มคิดว่าเป็นเพราะเหตุใด ต่อไปนี้คือปัจจัยบางประการที่อาจสร้างความเสียหายให้กับใบมีด และทำให้ใบมีดเปราะ และจำเป็นต้องเปลี่ยนโดยเร็วที่สุด:
1.สภาพอากาศตามฤดูกาล
ในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อน ที่ปัดน้ำฝนมักจะถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเสียหายได้เร็วขึ้น ในฤดูหนาว กระแสน้ำเย็นสามารถสร้างความเสียหายได้ในระดับเดียวกันเนื่องจากการขยายตัวของน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง
สารละลาย:
เมื่ออากาศร้อนจัดและรู้ว่าจะไม่ได้ออกไปไหนสักระยะ ลองจอดรถไว้ในที่เย็นๆ หรือใช้ที่บังกระจกหน้ารถทุกครั้งที่ทำได้
2.ทรัพย์/เกสรดอกไม้และสารมลพิษ
เมื่อน้ำนม เมล็ดพืช มูลนก ใบไม้ร่วง และฝุ่นเริ่มตกลงบนกระจกหน้ารถ การจอดรถใต้ต้นไม้อาจทำให้เจ้าของรถหงุดหงิดได้ สิ่งนี้อาจรวมตัวกันใต้ใบมีดและทำให้ยางหรือซิลิโคนเสียหาย การเปิดออกอาจทำให้เกิดเส้นริ้วและความเสียหายมากยิ่งขึ้น
จิตวิญญาณ:
ก่อนออกเดินทางให้ตรวจสอบว่ามีฝุ่นหรือวัตถุแปลกปลอมรอบๆ ใบปัดน้ำฝนรถยนต์ เช่น ใบไม้ กิ่งก้าน หรือเมล็ดพืช แล้วนำออก การใช้ผ้าขี้ริ้วที่สะอาดและเติมน้ำส้มสายชูไม่เพียงแต่ทำความสะอาดใบมีดเท่านั้น แต่ยังช่วยขจัดรอยเส้นอีกด้วย เทน้ำส้มสายชูส่วนเกินลงบนกระจกหน้ารถแล้วเปิดใบปัดน้ำฝนเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน
ถ้าน้ำส้มสายชูไม่ได้ผล ให้ลองใช้น้ำยาทำความสะอาดส้มผสมเลมอน สูตรนี้ออกแบบมาเพื่อกำจัดแมลงและสิ่งสกปรกที่ตายแล้ว ในขณะเดียวกันก็รักษาความสะอาดและสดใหม่ (ต่างจากน้ำส้มสายชู)
วิธีที่ดีในการป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกตกลงบนกระจกหน้ารถคือการคลุมรถของคุณในเวลากลางคืนหรือก่อนที่ลมแรงจะพัดเข้ามา
เกสรดอกไม้และน้ำนมต้นไม้อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดโดยใช้ส่วนผสมของน้ำและน้ำส้มสายชู (50/50) จากนั้นฉีดสเปรย์และเช็ด จากนั้นใช้ที่ปัดน้ำฝน
ทัศนวิสัยเป็นรากฐานของการขับขี่อย่างปลอดภัย แม้ว่าผู้ขับขี่จะใช้เพียงใบปัดน้ำฝนรถยนต์เพื่อขจัดฝน ลูกเห็บ และหิมะ และผู้คนจำนวนมากก็รอเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเมื่อจำเป็นที่สุด โปรดอย่าลืมบำรุงรักษาใบปัดน้ำฝนกระจกหน้ารถเป็นประจำเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย ประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือสูงสุด อย่ารอให้ถึงหน้าหนาวหรือต้องใช้ใบปัดน้ำฝนกะทันหันจึงพบว่าที่ปัดน้ำฝนชำรุด
เวลาโพสต์: 28 ต.ค.-2022